line

line

Thursday, October 1, 2015

ทริปแตะขอบฟ้า เปรู-บราซิล : เตรียมทริป ตอน 1

...หลังจากไป Trek ที่เนปาลเมื่อปี 2012 ก็ผ่านมาแล้วเกือบ 3 ปี นับจากทริปนั้นก็ไม่มีการเดินทางครั้งไหนอีกเลย ที่เรียกได้ว่าไปท่องเที่ยวจริง ๆ แบบที่ไม่รู้สึกว่าไปทำงาน

...ทริปครั้งนี้ก็เกิดจากเหตุจำเป็น ที่ต้องใช้ตั๋วเครื่องบิน non-refund เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-เซาเปาโล ที่เดิม ควรจะได้ใช้ไปทำงานตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่เราดันเกิดอุบัติเหตุต้องยกเลิกทริป...โชคยังดี ที่พอตั๋วใกล้จะหมดอายุ เพื่อนที่ไปเนปาลด้วยกันครั้งที่แล้ว ก็ตอบตกลงไปกับเรา

...ถึงแม้จะตั้งใจไปกันล่วงหน้าประมาณหกเดือน (ตั้งใจจะไปเดือนกันยายน) แต่ด้วยวันที่ของเรากับเพื่อนที่มีตารางงานเป็นข้อจำกัด ทำให้เพิ่งจะกำหนดวันเดินทาง จองตั๋ว จองที่พักจริงจังได้ ก็แค่ประมาณ 1 เดือนล่วงหน้าก่อนเดินทาง

...การเที่ยวทุกครั้งของเรา ปกติแล้วเราจะไม่เน้นประหยัดมาก เพราะเรากับเพื่อนคิดตรงกันว่าความรู้สึก เวลา และความปลอดภัย ก็ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นเราจึงเน้นที่ความพอใจ ณ สถานที่นั้นเป็นหลัก

...ตั้งใจมาเขียน Journal การเดินทาง ตั้งแต่การเตรียมตัว ให้ไว้เป็นข้อมูลสำหรับใครก็ตาม ที่อยากจะไปเที่ยวสองประเทศนี้ บอกตามตรงตอนหาข้อมูลเองก็ค่อนข้างลำบาก เพราะไม่ค่อยมีคนไทยเขียนรีวิวจริงจังเท่าไร ส่วนข้อมูลภาษาอังกฤษก็มีมากเกินจนไม่รู้จะเชื่ออันไหนดี (บอกตามตรง เชื่อรีวิวคนไทยมากกว่า)



เริ่มเลย....เปรู - บราซิล : 19 วัน 15 คืน เตรียมทริป ตอน 1

แรงบันดาลใจ :  ง่าย ๆ ตรง ๆ ว่าชอบเที่ยว ถึงแม้จะได้เดินทางไปแล้วหลายประเทศแต่ไม่เคยแตะทวีปนี้เลย ก็เลยตั้งใจว่าสักครั้งในชีวิตจะต้องมาเยือนให้ได้ ผู้หญิงโสดวัย30จิ๊ด ๆ สองคนก็เลยทุบกระปุกออกเดินทางผจญภัยกันอีกครั้ง

เลือกช่วงเวลาเดินทาง : ทวีปอเมริกาใต้ มีฤดูตรงข้ามกับโลกฝั่งเหนือเส้นศูนย์สูตร และมีภูมิประเทศหลากหลาย ดังนั้นหลัก ๆ แค่เลือกช่วงที่หลีกเลี่ยงหน้าฝน (โดยเฉพาะคุสโก้) และ ไม่่่ใช่ฤดูร้อน (โดยเฉพาะริโอเดอจาเนโร) ผลเลยออกมา เป็นเดือน กันยายน ซึ่งถือเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่รวมหลายภูมิทัศน์ให้ได้เห็นต้นไม้เขียว ๆ ดอกไม้สวย ๆ หญ้าแห้ง ๆ (ชอบวิวหญ้าแห้ง) มีผักผลไม้กินเต็มที่ ในขณะที่อากาศก็ไม่้ร้อนไม่หนาวเกินไป

เลือกเมือง เลือกเส้นทาง:  ตอนแรกที่แพลนไว้ ว่าเราจะไปเปรู - โบลิเวีย แต่เนื่องจากเวลากระชั้นชิดเลยไม่มีเวลาหาข้อมูลโบลิเวียอย่างจริงจัง ประกอบกับจำนวนวันที่จำกัด เราเลยไม่อยากเสียเวลาไปกับการนั่งรถในโบลีเวีย แถมเที่ยวบินที่ออกจากโบลีเวีย ก็เวลาไ่ม่สวย(แถมแพง) สรุปก็เลยเลือกเอา highlight ในแถบนี้ เพราะเพื่อนที่ไปด้วยชอบน้ำตก ก็เลยจัดให้นางซะหน่อย กล่าวคือเอาตามความชอบนำ

เลือกสายการบิน จากกรุงเทพฯ: เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไป เราไม่มีทางเลือกเพราะตั๋ว non-refund ของ Turkish Airline ที่เราจำเป็นต้องใช้  ส่วนเพื่อนเรานางไปหาสายการบินของนางเอง แล้วเราบินมาเจอกันที่ Lima ตอนขาไป (ซึ่งจะเล่าให้ฟังทีหลังว่าเราตัดสินใจเสี่ยงเกินไป)  และขากลับแยกกันที่ Rio de Janeiro 

เลือกสายการบินภายในทวีป: เราขอเล่าค่อนข้างละเอียดเพราะส่วนใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้ การเดินทางด้วยเครื่องบินจะสะดวกที่สุด บอกไว้เลยว่า ถ้ายิ่งแพลนล่วงหน้าและจองล่วงหน้าได้ยิ่งดีราคาจะถูกกว่ามาจองใกล้ ๆ ของเราจองล่วงหน้าแค่เดือนเดียว ราคาเลยค่อนข้างสูง

1.จะจองผ่าน airline โดยตรง หรือผ่าน online booking agent ไหนดี? 

เริ่มแรกเราใช้ website sky scanner หาเที่ยวบินที่ราคาถูกที่สุด ในวันและเวลาที่เราต้องการ ซึ่ง sky scanner จะ ช่วยกรองให้ว่าเราควรไปจองกับ online booking agent เจ้าไหน หรือจองตรงกับสายการบินไหนดี
สายการบินหลัก ๆ ที่บินในอเมริกาใต้คือ LAN (ของเปรู) และ TAM (ของบราซิล) ราคาจองตรงกับสายสองสายการบินนี้ บางครั้งราคาจะถูกกว่า online booking agent แต่ข้อเสียคือตอนเราจอง เราตัดผ่านบัตรเครดิตเราไม่ได้ 
หากเที่ยวบินที่เราต้องการ (ที่ดูว่าราคาโอเคแล้ว) ต้องจองผ่าน online booking agent ไหนเราเอาชื่อของ agent นั้นไป search ผ่าน google อีกที เพื่อดูว่าเชื่อถือได้หรือไม่และราคาที่ show ใน sky scanner มีหมกเม็ดอะไรหรือเปล่า ที่เราเจอมันมีเจ้า e-ความฝัน ซึ่งราคาถูกกว่าเจ้าอื่น แต่พอเอาชื่อไป search ใน google จึงได้รู้ว่าราคามันหมกเม็ด 

กรณีของเรา เพราะไม่สามารถจองตรงกับสายการบิน LAN และ TAM ได้ (ตัดบัตรเครดิตไม่ได้) เราจึงใช้จองภายในผ่าน expedia เป็นหลัก ราคาแพงกว่าจองตรงนิดหน่อย และเป็นสิ่งที่เราคิดถูกที่สุด....ขอแยกไปเล่าใน เตรียมทริป ตอน 2 นะคะ เรื่องมันยาว

2.จองแบบ point to point หรือจองเป็น หลาย ๆ ไฟลท์ พรืดด เลยดี?

อันนี้แนะนำให้ต้องลองเทียบราคาทั้งสองแบบ  แล้วมาเลือกอันที่ดีที่สุด เพราะกรณีของเรา เราจอง 6 sectors พรืดเดียว ราคาต่างกับจอง point to point ของเพื่อน 4 sectors แค่ 2,000 บาท

3.ถ้าต้องเปลี่ยนเครื่อง ระยะเวลาต่อเครื่องควรเผื่อไว้เท่าไรดี และเปลี่ยนสนามบินไหนดี?

ก่อนอื่นจะต้องดูความเป็นไปได้ของการ Check-Thru (กระเป๋าไปถึงจุดหมายปลายทาง) ว่าได้หรือไม่ได้ ง่าย ๆ คือถ้าต่อเครื่องกันคนละสายการบินก็ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าอาจต้องดึงกระเป๋าออกมาเช็คอินใหม่ ในกรณีนี้ควรเผื่อเวลาไว้ อย่างต่ำ 2 ชั่วโมง 30 นาที ถ้ากระเป๋า Check-Thru ได้และต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (กรณีเที่ยวบิน international ต่อ domestic) ก็อาจจะเผื่อไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่ต้องผ่านก็อาจจะเผื่อไว้ 1 ชั่วโมง 30 นาที /// ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่นอีกที่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเช่น Terminal ที่เครื่องบินลง และ Terminal ของเครื่องที่เราจะขึ้นต่อไป

เปลี่ยนสนามบินไหนดี? จริง ๆ อันนี้ไม่ค่อยเป็นปัจจัยของเราเท่าไร เพราะเราดูตั๋วราคาถูก และเวลาเป็นหลัก แต่ถ้าหากเลือกได้ ในกรณีที่เราต้องรอเปลี่ยนเครื่องเกิน 2 ชั่วโมง ก็จะเลือกสนามบินในเมืองใหญ่ เพราะอย่างน้อยมันมีอะไรให้ทำให้เดินมากกว่าในเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีอะไรให้ทำเลย

เด๋วจะมาต่อตอน 2 นะ มีให้ต้องเตรียมเยอะอะ


Agricultural Wisdom of Pisac

No comments:

Post a Comment

Blogger templates