line

line

Sunday, November 1, 2015

ทริปแตะขอบฟ้า เปรู-บราซิล Day 3 : Lima - Cusco

วันนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นวันปรับตัวให้อยู่ได้กับความสูง กว่า 3,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ยังแอบเสียดายว่าคืนก่อนหน้า น่าจะมีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศผับบาร์แถว Barranco

ชิวมาก 09:00 ถึงจะออกจากโรงแรม โดยรถ taxi ของโรงแรมในราคา 60 Soles เหมือนเคย
ไฟลท์ของเราคือ LA2031 to Cusco 12:05-13:25 ตอนจอง พลาดที่จองช้าไปมัวแต่ลังเลปรากฏว่าได้ค่าตั๋วที่แพงมาก ตกเป็นเงินไทยคือเกือบ 7,000 บาทแน่ะ

จากที่พักย่าน Mira Flores เพียง 45 นาทีก็ถึงสนามบินแบบฉิว ๆ คงเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วย
เช็คอินผ่านไปได้ด้วยดี ค้นพบว่าที่สนามบิน Lima มีร้านอาหารเยอะมว๊ากก ด้านนอกฝั่ง Departure น่าโดนเป็นที่สุด เสียดายเราอิ่มมาแล้วและเวลาไม่เยอะเลยไม่ได้ชื่นชม

เครื่องบิน LAN Peru พอจะโอเค แต่ไม่ใหม่เท่าตัวเครื่องตอนบินข้าม Sao Paolo มา Lima เที่ยวบินนี้ใช้เวลาบินแค่ 1 ชั่วโมงนิด ๆ เป็น 1 ชั่วโมงที่ไม่เบื่อเลย ตื่นเต้นตลอด ๆ เพราะวิวจากบนเครื่องบิน...เรานั่งฝั่งซ้าย แต่ไม่รู้ว่าฝั่งขวาจะเห็นสวยเหมือนกันไหม โชคดี อากาศเป็นใจท้องฟ้าใสปิ๊ง ๆ เมฆแทบไม่มี ยิ่งตอนเครื่องกำลังจะลง ซึ่งต้องบินอ้อมเขาและกลับลำมาลง run way นี่ลุ้นแทนกัปตันจริง ๆ สมเป็นเมืองในหุบเขา

วิวสวย ๆ กับยอด snowcap moutains ที่ทำเราลั้นลาตลอดเที่ยวบิน


พอเครื่องบินลงจอด สติก็มาทันทีว่า ทุกอย่างเราต้องทำช้า ๆ เพื่อป้องกัน การป่วยจากความสูง หรือต่อไปนี้จะเรียกว่า AMS (Acute Moutain Sickness) ถึงแม้ในใจจะแอบกระหยิ่มมาบ้างว่าเคยไป Trek Annapurna ที่ 4,300 มาแล้วอย่างสบาย ๆ แต่ครั้งนี้คือไม่มีการปรับตัวไง จากระดับน้ำทะเลก็พรวดมาที่ 3,400 เลย อากาศที่ Cusco นี่เรียกว่าหนาวเลย ยิ่งอยู่ในที่ร่มนี่ต้องมีเสื้อหนาวอะ // อ๊อ ก่อนมาเรากับเพื่อนเตรียมยา Diamox มา เพื่อป้องกัน AMS เริ่มทานกันตั้งแต่วันมาถึง Lima แบ่งกันครั้งละ ครึ่งเม็ด กินเช้าเย็น

ลากกระเป๋าออกมาที่ Arrival Hall ก็เจอ Taxi ที่เราติดต่อไว้ก่อน ยืนถือป้ายชื่อยิ้มร่าอยู่แล้ว ตกลงราคากันไว้ก่อนที่ 20 Soles

โรงแรมที่เราพักครั้งนี้คือ WaraWara Hostal จากสนามบิน 20 นาที พอมาถึง Plaza Armas กลางเมืองก็ต้องขึ้นเนินที่ชันมาก+ลัดเลาะตรอกซอยที่ไม่คิดว่ารถจะเข้าได้ขึ้นไปยังโรงแรม คนขับต้องนับว่าเซียนจริง ๆ เพราะถนนนี่เป็นแนว Cobble Stones แถมแคบมาก ๆ อีกต่างหาก

เจ้าของที่พักเป็นชายหนุ่มรูปหล่อคาดว่าเป็นต่างชาติเพราะพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก มีภรรยาเป็นชาวเปรู มีลูกชายน่ารักวัย 3 ขวบ และสุนัขชเนาว์เซอร์ 1 ตัวที่เฟรนด์ลี่สุด ๆ ชื่อ ติโต้ (ทั้งหมดนี่จำได้แค่ชื่อ ติโต้) คือให้อารมณ์เหมือนไปพักบ้านเค้าอะ เพราะก็ต้อนรับกันบ้าน ๆ ด้วยชาโคคา อันเป็นชาที่ดื่มแล้วจะช่วยป้องกัน AMS คุณภรรยาใส่ใบโคคามาในแก้วชาซะนึกว่ากำลังกินสลัด..

ราคาที่พักครั้งนี้ คืนละ 48 USD พร้อมอาหารเช้า คือที่เลือกโรงแรมนี้เพราะเพื่อนดูมาว่าเห็นวิวเมือง Cusco สวย ๆ และตั้งใจเลือกห้องแบบ Triple ซึ่ง"คาดว่า" จะได้นอนชมวิวเมือง แต่เอาเข้าจริงคือ ดันมีทางเดินคั่นระหว่างหน้าต่างกับหน้าต่างอีกที ทำให้ถ้าเราจะชมวิวเมืองจากบนเตียง คนใน Hostel ก็จะได้ชมเราด้วย

เจ้าของ Hostal อธิบายอย่างดีว่าจากที่นี้ไปเที่ยวกลางเมืองได้สะดวกมากมาย มีบันไดลงไปถึง Plaza Armas เลย เดินแค่ 5 นาที...ซึ่งก็จริง


เพียง 5 ก้าวจากโรงแรมก็ถึงบันได บันได และบันได ลงไปยัง Plaza Armas ทางลงไปก็สวยดีอยู่หรอก บ้านเรือนและร้านค้านี่ตกแต่งอย่างน่ารัก แต่ยิ่งเราลงไปก็สำนึกได้ว่า เราก็ต้องขึ้นมาเท่านั้น (น่าจะประมาณ 300 เมตร) ทั้งนี้ก็ไม่คิดมาก ลั้นลากันแบบลืม AMS ไปเลย

ตามแพลนคือบ่ายนี้เราจะเที่ยว Cusco เริ่มจาก Plaza Armas และเดินไปเข้าโบสถ์ San Francisco มีต้องเสียค่าเข้า แต่บอกเลยว่า คุ้มค่ามาก โบสถ์สวยงาม แถมเดินขึ้นมาถ่ายรูป Plaza Armas ได้สวย ๆ




จากโบสถ์ San Francisco เราก็เดินเล่นกันในเมือง Cusco เป็นเมืองที่น่ารัก ถนนหนทางก็สวย น่าเดินเล่น ไหนจะร้านอาหาร ร้านค้า เรียกว่าเพลินอะ จุดเด่นอันนึงของเค้าคือ พื้นถนนที่เป็นหินก้อน ๆ แนว Cobble Stones และอาคารต่าง ๆ ที่มีส่วนฐานกำแพงเป็นแบบภฺมิปัญญา Inca ดั้งเดิมคือเป็นหินมาเรียงกันอย่างแนบสนิทมั่นคง  แต่ด้านบนก็เป็นปูนให้อารมณ์แบบอยู่ในสเปน


เกือบบ่ายสี่ เราสองคนเพิ่งจะหิว หันไปเห็นร้าน Los Angeles ระหว่างทางเดินจาก Plaza Armas ไปตาม Calle de Santa Clara ก็ไปสะดุดกับร้าน Polleria Los Angeles ซึ่งคาดว่าต้อง Local แน่นอน เพราะชื่อมันดูอเมริกันมาก (นักท่องเที่ยวคงไม่เข้า) ได้ข่าวว่ามาเปรู ต้องกิน Pollo Alla Brasa ซึ่งเป็นประมาณไก่อบ+ย่าง


เป็นจริงดังคาดว่าร้าน local จริง ๆ เพราะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษเลย อาศัยความรู้ภาษาอิตาเลียนที่มีพอจะสื่อสารได้ เลยสั่งไก่แบบ 1/4 ตัวมา 1 จาน และน้ำเสาวรส (maracuyá)

Pollo = Chicken // Juga = Juice // Passion Fruit = Maracuyá

น้ำเสาวรสอร่อยเด็ดมาก 6 Soles มาเป็นเหยือก จานไก่ก็ใหญ่มาก กินกันจนพุงกาง หมดไป 12 Soles

อิ่มแล้วเราก็เดินเล่นต่ออย่างเพลิดเพลิน ไป supermarket ซื้อ Inka Corn (อร่อยมากควรหาซื้อ) ลูกอม coca candy (แนะนำเลือกแบบที่ตัวลูกอมห่อด้วยกระดาษ คุณจะได้รสใบโคคา แบบเต็มที่ไม่หวานเกินไป) และผลไม้ เก็บไว้เป็นเสบียงเวลาออกต่างจังหวัด พูดถึงผลไม้ เปรูเป็นประเทศที่น่าอิจฉามาก เพราะปลูกได้ตั้งแต่ผลไม้เมืองหนาวยันเมืองร้อน อร่อยซะด้วย เดือนที่เราไป ฟินนมากกับ เสาวรส องุ่น กล้วย แอ๊ปเปิ้ล และส้ม

สีถุงแบบนี้เลย รส original


จุดที่เค้าต้องไปเที่ยวกันเมื่อมาถึง Cusco คือหิน 12 มุม อันเป็นที่ฮิต ซึ่งแสดงถึงภูมิปัญญาทางด้านสถาปัตยกรรมระดับเทพ ชาวอินคาบรรจงสกัดหินก้อนหนึ่งจนมี 12 มุมเพื่อประกบกับหินก้อนอื่นจนแนบสนิท พอดีเราไม่ค่อยสนใจอะไรที่เป็น Tourist spot มากนัก แถมตรงจุดนั้น (ซึ่งอยู่ในตรอกแคบ ๆ) ก็แออัดด้วยนักท่องเที่ยวและกรุ๊ปทัวร์ซึ่งต่างคนต่างก็พยายามจะไปถ่ายรูปกับหินก้อนนั้น เราสองคนก็เลยเลือกเดินชมเมืองทั่ว ๆ ไปดีกว่า

**คู่ควรอย่างยิ่งกับการช้อปปิ้งเลือกซื้อคือ Chocolate ของ Republica Del Cacao ที่มีร้านใน Cusco และจริง ๆ ตามสนามบินก็มี แต่ที่เด็ดแถบนี้คือ Chocolate Bar with Coca Leaves ที่ใส่ใบ Coca แห้งสับลงไปด้วย ในร้านจะมี Chocolate หลากหลายสุด ๆ ให้เลือก **

เดินแป๊ป ๆ หกโมง ก็มืดแล้ว ตอนกลางคืนที่ Cusco บรรยากาศโรแมนติกมากสมคำร่ำลือ




19:00 ฟ้ามืดสนิทแล้ว อาการ AMS เริ่มแผลงฤทธิ์คือ ปวดหัวอ่อน ๆ ... เป็นว่า ถึงเวลากลับที่พัก

จะเฮือกก็คือ เมื่อเห็นบันไดทางขึ้นจาก Plaza Armas กลับที่พักนี่แหละ ถึงขั้นต้องเรียกสติตัวเองอีกครั้ง ตกลงกับเพื่อนกันว่า เราจะเดิน 5 ขั้นแล้วหยุด 5 วิ แล้วเดินต่อ  เพื่อไม่ให้เหนื่อย ... มี trick จากการสังเกตคนท้องถิ่นที่เดินขึ้นคือ เดิน zig zag ขึ้น

พอมาถึงที่พัก อาการ AMS ที่ทำให้ปวดหัวนั้นไม่เท่าไร แต่มันทำให้เราไม่อยากอาหาร (เป็นอาการเริ่มต้นชนิดหนึ่ง แต่เราปล่อยไปไม่ได้ต้องพยายามกิน) วันนี้เลยแค่ขอน้ำร้อนจากที่พักมาใส่มาม่าต้มยำ 1 ซอง แล้วแบ่งกันกินกับเพื่อน ก่อนกลับเข้าห้องไปแบ่งกระเป๋าส่วนที่จะใช้เดินทางไป Machu Picchu

หลับไปแบบยังปวดหัวอ่อน ๆ หวังว่าวันรุ่งขึ้นจะหาย

วิวจากระเบียงที่พัก หันไป Plaza Armas

วิวจากที่พักเช่นกัน หันไปทางภูเขา

Blogger templates